ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เมื่อ iPhone ถูกขโมย ด้วย Stolen Device Protection

ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เมื่อ iPhone ถูกขโมย  ด้วย Stolen Device Protection
26 มกราคม 2024 170 view(s)

ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เมื่อ iPhone ถูกขโมย ด้วย Stolen Device Protection

ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เมื่อ iPhone ถูกขโมย  ด้วย Stolen Device Protectionป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เมื่อ iPhone ถูกขโมย  ด้วย Stolen Device Protection

iPhone หาย! แถมคนขโมยยังรู้รหัสอีก อาจเสี่ยงโดนเปลี่ยนข้อมูล รหัสผ่านสำคัญในเครื่อง

ปัญหานี้ป้องกันได้ ด้วยฟีเจอร์ใหม่บน iOS 17.3  "ปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย (Stolen Device Protection)" โดยฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ขโมยเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญของคุณ เมื่อมีการเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ หาก iPhone ของคุณอยู่ห่างจากพื้นที่ที่คุ้นเคย เช่น บ้าน ที่ทำงาน และสถานที่อื่นๆ ที่คุณใช้ iPhone เป็นประจํา ทางระบบจะบังคับให้มีการยืนยันตัวตนด้วย Face ID หรือ Touch ID ก่อนจึงจะปลดล็อกเครื่องหรือดำเนินการบางอย่างได้ เช่น เปลี่ยนรหัส-ลงชื่อออกจาก Apple ID, เพิ่ม-ลบ Face ID หรือ Touch ID, เปลี่ยนรหัส iPhone, ปิดการค้นหาของฉัน, เป็นต้น ซึ่งเป็นการยกระดับความปลอดภัยอีกขั้นหนึ่ง ช่วยป้องกันไม่ให้ขโมยเปลี่ยนแปลงข้อมูลสำคัญในเครื่องของคุณได้ สำหรับใครที่อยากเพิ่มการปกป้อง iPhone ของคุณก็สามารถเข้าไปอัปเดตเครื่องเป็น iOS 17.3 พร้อมเปิดใช้งานฟีเจอร์ปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย (Stolen Device Protection) สามารถทำตามได้ไม่ยาก มาดูกันเลย!

Stolen Device Protection : ไปที่ ตั้งค่า (Settings) แตะเลือก Face ID & PasscodeStolen Device Protection : ไปที่ ตั้งค่า (Settings) แตะเลือก Face ID & Passcode

1. ไปที่ ตั้งค่า (Settings) > แตะเลือก Face ID & Passcode

2. ใส่รหัสผ่านจอ

Stolen Device Protection : เปิดใช้ ปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย (Stolen Device Protection)Stolen Device Protection : เปิดใช้ ปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย (Stolen Device Protection)

3. แตะ เปิดใช้ ปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย (Stolen Device Protection)

 

Previous article:
Next article: