เทคนิคถ่าย Vlog ให้โดดเด่น ในยุคที่ใครก็เป็นครีเอเตอร์ได้

เทคนิคถ่าย Vlog สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้หญิง
24 เมษายน 2024 18 view(s)

เทคนิคถ่าย Vlog ให้โดดเด่น ในยุคที่ใครก็เป็นครีเอเตอร์ได้

“2.5-4 ชั่วโมง”
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่คือจำนวนชั่วโมงโดยเฉลี่ยที่คนในปัจจุบันหมดไปกับการใช้ท่องโลกโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าเป็นส่วนสำคัญของชีวิตมากแค่ไหน ดังนั้น สำหรับครีเอเตอร์ นี่คือช่องทางในการสร้างรายได้มหาศาล โดยหนึ่งในประเภทคอนเทนต์ยอดนิยมที่สุดก็คือ “Vlog” ที่เป็นการบันทึกเรื่องราวในชีวิตประจำวันมาถ่ายทอดให้ผู้ชมได้รับรู้ อย่างไรก็ตาม ในยุคที่ใครก็หยิบกล้องมือถือมาถ่ายแล้วอัปโหลดได้เลย ต้องมีเทคนิคถ่าย Vlog อะไรบ้างที่จะทำให้ Vlog ของคุณโดดเด่น และดึงดูดใจให้คนยอมสละเวลาอันมีค่ากดเข้ามาดู ติดตามได้เลย

เลือกแพลตฟอร์มที่ใช่

Vlog คือรูปแบบการแชร์เรื่องราวที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคนี้ ที่เพียงแค่กดดู ถึงแม้จะนอนอยู่บนเตียงที่บ้าน แต่ก็รู้สึกได้ออกไปท่องโลกกับ Vlogger ในหน้าจอด้วย และถ้าคุณอยากสลับบทบาทจากผู้ดู มาเป็นผู้บอกเล่าบ้าง สิ่งแรกที่ต้องทำคือการ “เลือกแพลตฟอร์มที่ใช่”

ในปัจจุบัน 2 แพลตฟอร์มที่เหมาะกับการถ่าย Vlog และได้รับความนิยมที่สุดก็คือ YouTube และ Instagram อย่างไรก็ตาม แต่ละแอปต่างก็มีจุดเด่นและกลุ่มเป้าหมายเป็นของตัวเอง ดังต่อไปนี้

  • YouTube: แพลตฟอร์มวิดีโอยักษ์ใหญ่ที่เหมาะกับ Vlog ที่ต้องการเล่าเรื่องยาว ๆ สามารถใส่รายละเอียดได้มาก คนนิยมเปิดไว้เป็นเพื่อนเพลิน ๆ พลางทำอย่างอื่นไปด้วย ตัวอย่าง Vlog ยอดนิยมบน YouTube เช่น Vlog ท่องเที่ยว รีวิวสินค้า DIY สอนทำอาหาร
  • Instagram: แพลตฟอร์มแชร์รูปภาพและวิดีโอสั้น เน้นความรวดเร็ว กระชับ เหมาะกับ Vlog ที่ต้องการนำเสนอเนื้อหาแบบสั้น ๆ จับใจความสำคัญ ตัวอย่าง Vlog ยอดนิยมบน Instagram เช่น Vlog ชีวิตประจำวัน, Vlog ตลก, Vlog รีวิวอาหาร

เทคนิคการถ่าย Vlog บน YouTube ใหัปัง!

เน้นเล่าเรื่องสบาย ๆ ไร้แบบแผน

หมดยุคแล้วสำหรับการเปิดรายการด้วยการยืนนิ่งสวัสดีหน้ากล้อง พร้อมบอก “สวัสดีครับคุณผู้ชม” เพราะการทำแบบนั้นจะทำให้เกิดระยะห่างระหว่าง Vlogger กับผู้ชม ดังนั้น เทคนิคถ่าย Vlog ที่ดีควรเน้นการเล่าเรื่องสบาย ๆ ไร้แบบแผน ไม่เป็นทางการ ให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังดูเพื่อน โดยสามารถเริ่มต้นคลิปแล้วเล่าเรื่องหรือสถานการณ์ตรงหน้าได้เลย ไม่ต้องแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ หรือบอกละเอียดเกินไปว่าอยู่ที่ไหนกับใคร เพราะเรื่องนี้เดี๋ยวดูไปผู้ชมก็จะรู้ได้เอง

นอกจากนั้น การนำเสนอตัวตนให้ผู้ชมสัมผัสได้ ให้รู้สึกผูกพันกับเจ้าของช่อง ไม่ใช่คอนเทนต์ ยังทำให้การสร้างผู้ติดตามในระยะยาวง่ายขึ้นด้วย ไม่ต้องลำบากไปถ่ายคอนเทนต์สถานที่ไกล ๆ หรือตื่นตาตื่นใจทุกสัปดาห์ เพราะถ้าผู้ชมรักเจ้าของช่อง ต่อให้ถ่ายร้านอาหารแถวบ้านพวกเขาก็อยากดู

มีการตัดต่อที่ดี

การตัดต่อคือศิลปะแขนงหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ กับการทำ Vlog โดยการตัดต่อที่ดี จะต้องทำให้อารมณ์ผู้ชมลื่นไหล สนุกไปแบบไม่มีสะดุด เรื่องราวที่บอกเล่าไม่เวิ่นเว้อ ยืดเยื้อ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่กระชับ หรือมี Jump Cut มากเกินไป จนดูแล้วรู้สึกเวียนหัว

มุมกล้องไม่ต้องเพอร์เฟกต์

เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักรายการไกลบ้านของช่อง “Farose” ที่เป็นการถ่าย Vlog ท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่ 80% ของมุมกล้องกลับจับอยู่ที่ใบหน้าพิธีกร เรียกได้ว่าเป็นการแหวกขนบเทคนิคถ่าย Vlog แบบสุด ๆ และก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ในยุคนี้การทำ Vlog มุมกล้องไม่ต้องเพอร์เฟกต์ ถ่ายง่าย ๆ บ้าน ๆ ก็มีคนอยากดูเรื่องที่เล่าสนุกพอ แต่ก็ระวังอย่าให้ภาพสั่นเกินไปจนผู้ชมเวียนหัว

พยายามไม่ให้มีเสียงรบกวนเข้ามาในกล้อง

การมีเสียงรบกวนเข้ามามากเกินไปจะทำให้ผู้ชมรู้สึกรำคาญ จนรู้สึกไม่อยากดูต่อได้ ดังนั้น ถ้าจะไปถ่ายในสถานที่ที่ผู้คนพลุกพล่าน แนะนำให้ใช้อุปกรณ์ช่วยเก็บเสียง หรือตัดเสียงรบกวนจากรอบข้าง

 

การทำ Vlog ให้ออกมาดูน่าสนใจ เข้าถึงผู้ชมการทำ Vlog ให้ออกมาดูน่าสนใจ เข้าถึงผู้ชม

 

เทคนิคการถ่าย Vlog บน Instagram ใหัปัง!

เก็บฟุตเทจมาให้หลากหลายมุม

Vlog ใน Instagram คือการบอกเล่าเรื่องราวผ่านฟีเจอร์ที่เรียกว่า Reel ซึ่งเป็นคลิปวิดีโอขนาดสั้นที่เป็นการตัดรวมฟุตเทจเข้าด้วยกัน ดังนั้น เพื่อให้ Reel ที่ออกมาได้ใจความครบถ้วนในระยะเวลาที่มี ก็ต้องถ่ายฟุตเทจมาให้ครบทุกมุมที่อยากจะเล่า

เลือกเพลงประกอบที่โดนใจคนฟัง และเข้ากับบรรยากาศคลิป

Vlog ใน Instagram มักจะมาพร้อมกับเพลงประกอบ โดยควรเลือกเพลงที่เข้ากับบรรยากาศคลิป และกำลังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนั้น เพื่อให้ผู้ชมอยากจะดูจบคลิป อีกทั้งยังช่วยให้อัลกอริทึมดันให้คนมาเห็นคลิปเยอะขึ้นอีกด้วย

ตัดต่อไม่ช้าและไม่เร็วเกินไปจนคนปวดหัว

เนื่องจากมีเวลาจำกัด หลายคนจึงเน้นตัดภาพสลับไปมาอย่างรวดเร็วเพื่อเล่าเรื่องให้ได้มากที่สุด ทว่านั่นคือความคิดที่ผิด เพราะการตัดสลับเร็วเกินไปอาจทำให้ผู้ชมดูไม่รู้เรื่องได้ ดังนั้น จึงควรตัดต่อให้กระชับพอดี ถ้าเรื่องที่อยากเล่ายาวก็แนะนำให้ทำเพิ่มเป็น 2 คลิป ดีกว่าจะมาอัดรวมในคลิปเดียว

มีการใช้ Text บอกเล่าเรื่องราว

สำหรับใครที่ไม่มั่นใจในเสียงหรือใบหน้าตัวเอง ก็สามารถถ่าย Vlog บน Instagram ได้ เนื่องจากเป็นรูปแบบ Reel ขนาดสั้น ดังนั้น ผู้ชมจึงไม่จำเป็นต้องเห็นหน้า โดยเทคนิคถ่าย Vlog แบบนี้คือเก็บฟุตเทจที่ต้องการมาตัดต่อรวมกัน พร้อมใส่ Text บอกเล่าเรื่องราวลงไปแทนเสียงได้เลย

นอกจากเทคนิคถ่าย Vlog ที่ไม่ตกเทรนด์แล้ว การมีอุปกรณ์คุณภาพดีทำให้ฟุตเทจที่ถ่ายมาไม่สั่น นำไปตัดต่อได้เลยก็สำคัญเช่นกัน และถ้าหากกำลังมองหาแหล่งซื้อกล้อง Action Camera ไปจนถึงไม้กันสั่นที่น่าเชื่อถือ ขอชี้เป้าไปที่ dotlife ร้านไลฟ์สไตล์เทคโนโลยีแห่งแรกของประเทศไทย เลือกซื้อสินค้าได้ที่ dotlife ทั้ง 24 สาขา รวมถึงผ่านช่องทางออนไลน์

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. The art of creating viral videos and how to hit 1 million views. สืบค้นวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 จาก https://thinkmarketingmagazine.com/the-art-of-creating-viral-videos-and-how-to-hit-1-million-views/
  2. 10 pro vlogging tips and tricks . สืบค้นวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 จาก https://www.creativebloq.com/features/vlogging-tips
Previous article:
Next article: